top of page
baby-hand-holding-mother-finger-isolated-white-scaled.webp

โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นารีเวชมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีมีเครื่องมือที่ทันสมัย รองรับบริการให้กับลูกค้า

คลินิกหมอรุจิเรข

modern-hospital-with-clear-walls-scaled.jpg
section1

ศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอด

front-view-doctor-holding-anatomic-model.jpg

     การผ่าตัดตกแต่งฝีเย็บ (Perineoplasty) เป็นการศัลยกรรมที่ช่วยซ่อมแซมบริเวณฝีเย็บและอวัยวะเพศภายนอก ซึ่งรวมเรียกว่าปากช่องคลอด ฝีเย็บคือบริเวณระหว่างช่องคลอดและทวารหนัก มีบทบาทสำคัญในการรองรับอวัยวะสืบพันธุ์และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การคลอดบุตร การลดน้ำหนัก หรืออุบัติเหตุ อาจทำให้บริเวณนี้เสียหาย ส่งผลให้ผิวหนังรอบปากช่องคลอดหย่อนคล้อยหรือขยายกว้างเกินไป

     จุดประสงค์หลักของการทำ Perineoplasty คือช่วยเสริมความแข็งแรงและกระชับบริเวณฝีเย็บ ลดขนาดปากช่องคลอด และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่หลวม มีรอยแผลเป็น หรือเสียหายจากสาเหตุต่าง ๆ การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ช่วยให้บริเวณฝีเย็บกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่งเสริมสุขภาพของอุ้งเชิงกราน และเพิ่มความสบายของร่างกาย

     นอกจากประโยชน์ทางด้านสุขภาพแล้ว การผ่าตัดยังช่วยปรับปรุงลักษณะของฝีเย็บ ทำให้เกิดความมั่นใจและช่วยเสริมภาพลักษณ์ของร่างกาย ผู้ที่มีปัญหาความไม่สบายตัวหรือรู้สึกไม่พึงพอใจจากการเปลี่ยนแปลงของฝีเย็บสามารถได้รับประโยชน์จากการทำหัตถการนี้ ซึ่งช่วยส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและจิตใจ

เหตุผลที่ควรเข้ารับการผ่าตัด
     หลายคนเลือกทำ Perineoplasty เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยที่ปากช่องคลอด ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้สึกพึงพอใจทางเพศหรือทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ในบางกรณีที่รุนแรง กล้ามเนื้อที่ได้รับความเสียหายอาจส่งผลต่อการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ

 

เหตุผลทั่วไปที่ผู้ป่วยเลือกทำ Perineoplasty ได้แก่:
● ความมั่นใจในรูปร่างลดลง
● ความต้องการทางเพศลดลงหรือไม่มีความต้องการทางเพศ
● กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่อยู่
● มีอาการเจ็บ ระคายเคือง หรือไม่สบายตัวบริเวณช่องคลอด
● ผิวหนังรอบช่องคลอดหลวม ยื่นออกมา หรืออ้ากว้างเกินไป
● มีรอยแผลเป็นจากการคลอดบุตรหรือการตัดฝีเย็บ (episiotomy)
● สูญเสียความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์

 

ความปลอดภัยของการตรวจอัลตราซาวด์
     สาเหตุหลักของความเสียหายบริเวณฝีเย็บคือการคลอดบุตร โดยระหว่างการคลอดทางช่องคลอด ปากช่องคลอดจะต้องขยายออกเพื่อให้ทารกผ่านออกมา การคลอดหลายครั้งจะเพิ่มโอกาสที่ช่องคลอดจะหลวมและขยายมากขึ้น

     หากผู้ป่วยมีการฉีกขาดของฝีเย็บอย่างรุนแรงขณะคลอด หรือได้รับการตัดฝีเย็บ อาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือสูญเสียความรู้สึกในบริเวณนั้น

ความเสี่ยงของการผ่าตัด
เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ Perineoplasty มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

  • การติดเชื้อ

  • อาการท้องผูก

  • เลือดออกที่แผลผ่าตัด

  • ไม่สามารถกระชับฝีเย็บหรือช่องคลอดได้ตามที่ต้องการ

  • อาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ (Dyspareunia)

 

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
     Perineoplasty เป็นการผ่าตัดที่ดำเนินการโดยนรีแพทย์ ควรปรึกษานรีแพทย์เกี่ยวกับความต้องการและอาการของตนเองเพื่อทำความเข้าใจถึงประโยชน์และความเสี่ยงของการผ่าตัด นอกจากนี้ควรสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการฟื้นตัวและสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด
     Perineoplasty สามารถทำได้ภายใต้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยและความซับซ้อนของการผ่าตัด ระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะทำการกรีดบริเวณปากช่องคลอด เพื่อตัดเอาผิวหนังส่วนเกินหรือเนื้อเยื่อที่เป็นแผลเป็นออก และทำการซ่อมแซมกล้ามเนื้อรอบช่องคลอดให้แน่นขึ้น จากนั้นจะทำการเย็บปิดแผล

     ขั้นตอนการผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากฟื้นตัวระยะสั้นที่ศูนย์ศัลยกรรมหรือคลินิก ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกันโดยไม่จำเป็นต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาล

การดูแลหลังการผ่าตัด
     หลังการผ่าตัด ร่างกายจะต้องใช้เวลาฟื้นตัว ในช่วงสองสามวันแรก ผู้ป่วยอาจมีอาการบวมและเจ็บบริเวณที่ทำการผ่าตัด แพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้ใช้ถุงน้ำแข็งและยาแก้ปวดเพื่อลดอาการไม่สบาย นอกจากนี้ การแช่น้ำอุ่นยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองได้ในช่วงแรกของการฟื้นตัว

     คำแนะนำทั่วไปหลังการผ่าตัด ได้แก่:

  • ใส่ผ้าอนามัยหากมีเลือดออกจากช่องคลอด

  • รักษาความสะอาดของแผลและให้แผลแห้ง ไหมเย็บแผลจะละลายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์

  • งดใช้ผ้าอนามัยแบบสอดและงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนัก เช่น การออกกำลังกายหรือยกของหนัก เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์

  • รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงของอาการท้องผูก อาจใช้ยาระบายหรือตัวช่วยให้อุจจาระนิ่มเพื่อป้องกันการเบ่งที่อาจทำให้แผลกระทบกระเทือน

 

     แพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้ทำแบบฝึกหัดกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercises) หลังจากฟื้นตัวจากการผ่าตัด เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณฝีเย็บ นอกจากนี้ อาจได้รับคำแนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด หรือได้รับชุดท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

ผลลัพธ์หลังการผ่าตัด
     ระยะเวลาการฟื้นตัวโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 6-8 สัปดาห์ ในช่วงนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์เพื่อให้แผลหายสนิท

บริการทั้งหมดของเรา

modern-hospital-with-clear-walls-scaled.jpg

Contact Us

Address

96/43 praphuketkaew, Phuket, Thailand, Phuket

Contact

fb icon.png
line icon.png
insta icon.png
vecteezy_tiktok-png-icon_16716485.png

Opening Hours

Mon - Fri : 13:00 Hrs – 20:00 Hrs

Sat          : Close

Sun         : Close

bottom of page